วัดราชาธิวาสวิหาร ร่วมกับ ภาคราชการ ประชาชน ร่วมแถลงข่าวจัดกิจกรรม ๙ วัน ๘ คืน เฉลิมพระเกียรติ “๒๐๐ ปี วชิรญาณภิกขุ”

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส เป็นประธานแถลงข่าว ร่วมกับบาทหลวงเปโตร สมเกียรติ บุญอนันตบุตร เลขาธิการฯ คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ ดร.พลเดช วรฉัตร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ศรีลังกาและมัลดิฟส์ นายอภิภูมิ เปี๊ยปลูก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดราชาธิวาส ผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ณ อาคารพิพิธภัณฑ์มหาราชานุสรณ์ ร.๔ วัดราชาธิวาสวิหาร ในการเตรียมจัดโครงการ "เฉลิมพระเกียรติ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามงกุฏวิทยมหาราช ในโอกาสครบ ๒๐๐ ปี นับแต่ทรงพระผนวช ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และในโอกาสงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ในการนี้วัดราชาธิวาสวิหาร จึงร่วมกับหน่วงงานต่าง ๆ อาทิ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โรงเรียนวัดราชาธิวาส ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ม.สวนดุสิต มทร.พระนคร สถาบันพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลของทั้งสองพระองค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “๒๐๐ ปี วชิรญาณภิกขุทรงพระผนวชและเสด็จประทับจำพรรษา ณ วัดราชาธิวาสวิหาร” เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงพระผนวชได้ประทับจำพรรษา ณ วัดสมอราย (วัดราชาธิวาสวิหาร) ทรงก่อตั้งคณะธรรมยุตขึ้นซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางพระพุทธศาสนาของไทย การเรียนรู้วิทยาการที่ก้าวหน้าจากต่างประเทศจากพระสหายต่างศาสนา ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างมาก และทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญในการบำรุงพระพุทธศาสนา การสร้างพระอารามหลวง ปฏิสังขรณ์วัดจำนวนมาก ทั้งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงผนวชยาวนานที่สุดถึง ๒๗ พรรษาก่อนขึ้นครองราชย์

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ได้กำหนดพื้นที่จัดกิจกรรมออกเป็น ๒ พื้นที่หลัก พื้นที่แรก ใช้บริเวณอาคารพิพิธภัณฑ์มหาราชานุสรณ์ ร.๔ และศาลาโบสถ์แพจำลอง ซึ่งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการ ๒๐๐ ปี วชิรญาณภิกขุ ประทับจำพรรษา ณ วัดราชาธิวาสวิหาร นิทรรศการพระราชประวัติ ร.๔ นิทรรศการศาลาโบสถ์แพต้นกำเนิดธรรมยุต และใช้เป็นเวทีหลักในการจัดกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น มโนราห์ ระบำมอญ การปาฐกถาพิเศษ และเสวนาวิชาการ การประกวดสวดมนต์ ตอบปัญหาธรรม พร้อมเปิดให้ชมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์

ส่วนพื้นที่สอง บริเวณศาลาการเปรียญ และพระอุโบสถ จัดให้มีกิจกรรมการสวดมนต์ปฏิบัติธรรมกับ ๗ พระวิปัสสนาจารย์ อาทิ พระพรหมวชิรมงคล เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร พระธรรมวชิรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร พระเทพวชิรญาณโสภณ (หลวงตาเยื้อน ขนฺติพโล) วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์ พระราชภาวนาวชิรากร (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สนตุสสโก) วัดป่าคำนาน้อย จ.อุดรธานี

กิจกรรมสักการะ ๑๑ พระพุทธรูปสำคัญของวัด สรงน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ ร.๒ ทรงปลูก ตลาดวิถีชุมชนย้อนยุค สาธิตการปรุงอาหารตำรับชาววัง การแสดงแสงสีเสียง ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงานได้ในวันที่ ๗-๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ รวมทั้งสิ้น ๙ วัน ๙ คืน ระหว่างเวลา ๑๓.๐๐-๒๐.๓๐ น. ณ วัดราชาธิวาสวิหาร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร